Custom Search

วันพุธที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2551

ดอกชะบา



ดอกชบา ดอกชบามีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Hibiscus rosa-sinensis Linn. อยู่ในวงศ์ Malvaceae มีชื่อตามท้องถิ่นต่างๆดังนี้ ชบาขาว ชบาดอกแดง ชุมบา บาใหม่ ใหม่แดง ชบาจัดเป็นไม่พุ่มขนาดย่อม ใบดกรูปไข่ ปลายใบแหลม สีเขียว ขอบใบเป็นหยักเล็กๆ ดอกเป็นดอกเดี่ยวเด่นสะดุดตา ก้านเกสรตัวเมียยาว ตรงปลายมีก้านเกสรตัวผู้เกาะอยู่ กลีบดอกมีหลายสี เช่น สีแดงเข้ม ส้ม ชมพู


สรรพคุณ ในตำรายาแผนโบราณได้ระบุส่วนที่นำมาใช้เป็นยาและสรรพคุณดังนี้

"ราก" แก้ฝี แก้ฟกช้ำบวม ขับน้ำย่อย ทำให้อาหารมีรสชาติ ลดไข้ เป็นยาระบาย

"ใบ" น้ำคั้นจากใบมีรสหวาน มีฤทธิ์ฝาดสมาน ให้ความรู้สึกเย็น บรรเทาอาการระคายเคืองที่ผิวหนัง ในประเทศจีนใช้น้ำคั้นทาช่วยให้รองเท้าดำและใช้ทำมาสคาราทาขนตา

"ดอก" ช่วยลดอุณหภูมิในร่างกาย ลดไข้ บำรุงน้ำนมมาก บำรุงเส้นผม ทำให้ผิวหนังชุ่มชื้น ขับเสมหะ

"ดอกและใบ" ใช้บรรเทาอาการปวดท้องเวลามีประจำเดือน รักษากระเพาะปัสสาวะอักเสบ รักษากามโรค


ปัจจุบันมีการศึกษาวิจัยพบฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาดังนี้ ลดไข้ แก้ปวด ลดอาการอักเสบกดระบบประสาทส่วนกลาง เสริมฤทธิ์ของยาแก้ชักและยานอนหลับบาน์บิทูเรต ลดความดันโลหิต คลายกล้ามเนื้อเรียบ ต้านเชื้อรา ต้านเชื้อไวรัส ขับประจำเดือน ยับยั้งการสร้างอสุจิ ยับยั้งการฝังตัวของตัวอ่อน <คุมกำเนิด> เป็นพิษต่อตัวอ่อนทำให้แท้ง บำรุงน้ำนมในสตรีหลังคลอดบุตร ดื่มเป็นยาชงช่วยลดอุณหภูมิในร่างกาย ฟอกโลหิต โดยนำมาดอก ชบามาแต่งสลัดผัก ใส่แกงเลียงหรือใช้เป็นสีผสมอาหาร ซึ่งจะให้สีแดงม่วงเติมน้ำมะนาวลงไปจะให้สีแดงสด


จะเห็นได้ว่าฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาที่ค้นพบสามารถอธิบายถึงสรรพคุณที่ระบุไว้ในตำรายาแผนโบราณ ถ้าท่านผู้อ่านไม่มีอาการดังกล่าวมาแล้วข้างต้นก็สามารถใช้ใบชบสเพื่อลดอายุตนเองได้ โดยนำใบชบามาขยำกับน้ำได้น้ำเมือกที่เหนียวข้นนำไปหมักผม จะช่วยทำให้ผมดกดำไม่มีผมงอก

ไม่มีความคิดเห็น: